หลักสูตรนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยธุรกิจของคุณ ในการแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการเข้าใจความต้องการของผู้ใช้อย่างแท้จริง ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และกระตุ้นให้มีทางเลือกหลายๆทางก่อนตัดสินใจ เพื่อให้เลือกทางออกที่ดีที่สุด
หลักสูตรนี้นำแนวทางจาก Stanford, MIT และ IDEO มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของไทย เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ตรงใจและมีประสิทธิภาพสูงสุด
Design Thinking เป็นกระบวนการแก้ไขปัญหาเชิงนวัตกรรมที่ใช้ชุดทักษะเฉพาะ โดยกระบวนการนี้ประกอบด้วย 5 ขั้นตอนหลัก ได้แก่:
วันที่ 1
09:00 – 09:30: บทนำสู่ Design Thinking
และการสร้างทัศนคติ (Design Thinking Overview & Mindset)
09:30 – 10:30: ลูกค้าของคุณคือใคร? (Who is your Customer?)
10:30 – 10:45: พักเบรก (Coffee Break)
10:45 – 12:00: ความต้องการ, ความเป็นไปได้, และความยั่งยืน (Desirability, Feasibility, Viability)
12:00 – 13:00: พักรับประทานอาหารกลางวัน (Lunch Break)
13:00 – 14:30: Empathize: การลงพื้นที่สังเกตและสร้างความเข้าใจ (Immerse, Observe and Engage)
14:30 – 14:45: พักเบรก (Coffee Break)
14:45 – 16:30: การทำ Empathy Map และเวิร์กช็อปการกำหนดปัญหา (Empathy Map & Define Workshops)
วันที่ 2
09:00 – 09:15: ทบทวนและบทนำสู่ Design Thinking (Design Thinking Recap & Overview)
09:15 – 10:30: Ideate: วิธีการสร้างไอเดียและเวิร์กช็อประดมไอเดีย
(How might we & Brainstorming Workshops)
10:30 – 10:45: พักเบรก (Coffee Break)
10:45 – 12:00: การระดมไอเดีย (Ideate – ต่อเนื่อง)
12:00 – 13:00: พักรับประทานอาหารกลางวัน (Lunch Break)
13:00 – 14:30: เวิร์กช็อปการสร้างต้นแบบ (Prototype Workshop)
14:30 – 14:45: พักเบรก (Coffee Break)
14:45 – 16:00: เวิร์กช็อปการทดสอบและการปรับปรุง (Test Workshop & Iteration)
16:00 – 16:30: การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในชั้นเรียน (Class Sharing)
หลักสูตรนี้ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้และเข้าใจกระบวนการคิดเชิงกลยุทธ์อย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การกำหนดทิศทางในอนาคต การวิเคราะห์สถานการณ์ การกำหนดกลยุทธ์ การนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม ไปจนถึงการติดตามและประเมินผล
เพิ่มเติม
หลักสูตรนี้ S.T.A.R. มุ่งหวังที่จะเป็นส่วนสำคัญของ Solution ด้วยการนำเสนอเส้นทางการเรียนรู้ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่นให้กับผู้เรียน
เพิ่มเติม
หลักสูตรนี้จะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะการเล่าเรื่องให้ดีขึ้น ด้วยกฎง่ายๆ 3 ข้อคือ: เล่าเรื่องตามจริง, เล่าเรื่องที่น่าสนใจ, และใช้ภาพช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น ช่วยให้การนำเสนอของคุณน่าสนใจมากขึ้น!
เพิ่มเติม